สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

มะม่วงแก้วขมิ้น มะม่วงนอกยอดนิยม

ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีสายพันธุ์มะม่วงที่ได้รับการบันทึกไว้เกินกว่าร้อยสายพันธุ์ แต่ในช่วง 5 ปีหลังที่ผ่านมาไม่มีมะม่วงสายพันธุ์ไหนที่มีกระแสแรง หรือได้รับความนิยมปลูกกันมากขึ้นเหมือนกับมะม่วงแก้วขมิ้นอีกแล้ว ซึ่งคนทั่วไป ที่ไม่ใช่เกษตรกรชาวสวนมะม่วง อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามะม่วงพันธุ์แก้วขมิ้นนี้ไม่ใช่สายพันธุ์ของไทย แต่เป็นมะม่วงสายพันธุ์พื้นเมืองของประเทศเพื่อนบ้านเรา คือ กัมพูชา ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกมะม่วงสายพันธุ์แก้วขมิ้นที่ใหญ่ที่สุด และถูกยกให้เป็นผลไม้เศรษฐกิจของประเทศ

จากนโยบายประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ทำให้มะม่วงแก้วขมิ้นซึ่งเป็นผลไม้เศรษฐกิจของกัมพูชา ถูกส่งเข้ามาตีตลาดมะม่วงในประเทศไทยและส่งผลกระทบต่อเพื่อนๆ เกษตรกรชาวสวนมะม่วงของไทยเป็นอย่างมาก และยิ่งไปกว่าน้ันคือมะม่วงพันธุ์ไทยที่ส่งขายให้กับโรงงานแปรรูป เช่น มะม่วงพันธุ์แก้ว พันธุ์โชคอนันต์ พันธุ์มหาชนก พันธุ์เขียวมรกต  ซึ่งนิยมแปรรูปเป็นมะม่วงดอง แช่อิ่ม กวน และ มะม่วงอบแห้ง ไม่ได้รับความนิยมเช่นเดิม แต่โรงงานหันไปนิยมใช้ มะม่วงแก้วขมิ้นเนื่องจากน้ำหนักดี เนื้อเยอะ รสชาติดี เมื่อแปรรูปแล้วได้สีสันสวยกว่ามะม่วงพันธุ์ไทย และราคาถูกกว่ามะม่วงไทยที่นำมาแปรรูป ทำให้ลดการสั่งซื้อมะม่วงเหล่านั้นกันไปเลยครับ

นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องความนิยมจากผู้ซื้อ  เพราะมะม่วงแก้วขมิ้น มีผลใหญ่เฉลี่ย 3 ผลต่อ 1 กิโลกรัมรสชาติของผลดิบ มีเนื้อกรอบมันปนเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อย เนื้อฉ่ำน้ำ ไม่แข็งหรือเหนียว  ทำให้บรรดาพ่อค้าผลไม้รถเข็นในปัจจุบันนิยมเอามาปอกขาย ผลละ 20 บาท ซึ่งขายดีมาก ส่วนผลสุก เนื้อมีสีเหลืองคล้ายขมิ้นเนื้อแน่น ไม่เละ รสชาติหวานหอม ไม่มีเสี้ยน แต่คนทั่วไปจะนิยมกินผลดิบมากกว่า

จากผลกระทบดังกล่าวทำให้เกษตรชาวสวนมะม่วงของไทย ได้ปรับเปลี่ยนแผนเพื่อรับมือ โดยการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการปลูกมะม่วงแต่ละสายพันธุ์ในสวนของตัวเอง แล้วหันมาเร่งปลูกมะม่วงสายพันธุ์แก้วขมิ้นเพิ่มเติม เพื่อทดแทนการนำเข้าและชิงส่วนแบ่งตลาดคืน เพราะมะม่วงพันธุ์นี้ปลูกง่าย ทนทานต่อโรค แมลง และทนต่อสภาวะอากาศที่ร้อนได้ ให้ผลดกปีละ 2 ครั้ง และยังใช้ฮอร์โมนเร่งให้ออกดอกติดผลนอกฤดูได้ตลอดทั้งปี ซึ่งเรื่องความเชี่ยวชาญในการปลูกเพาะขยายพันธุ์หรือพัฒนาสายพันธุ์มะม่วง ทั้งเพื่อนๆ เกษตรกรและ นักวิชาการบ้านเรา ก็มีฝีมือในเรื่องนี้ไม่แพ้ใคร จึงเป็นที่มาของกระแสการปลูกมะม่วงสายพันธุ์แก้วขมิ้นกันอย่างจริงจังในบ้านเรา ก็เพื่อเป็นการรับมือผลไม้ที่ทะลักเข้ามาจากเพื่อนบ้านนั่นเอง

สำหรับเพื่อนๆ เกษตรกร ที่ทำเกษตรแบบผสมผสานหรือไม่ได้เป็นชาวสวนมะม่วงโดยตรงก็น่าจะลองเสาะหากล้าพันธุ์ของมะม่วงแก้วขมิ้น มาปลูกประดับไว้ในสวน เพราะว่าปลูกง่าย โตเร็ว ทนทาน ปลูกต้นเดียวมีผลให้เก็บตามธรรมชาติได้ ปีละ2 ครั้ง หรืออาจนำมาเพาะขยายพันธุ์ เพื่อขายเป็นต้นกล้าพันธุ์ เพราะตอนนี้กล้าพันธุ์ก็กำลังเป็นที่นิยม ของคนทั่วไปที่หาซื้อไปปลูกเอาไว้ที่บ้าน เพื่อหวังเก็บผลไว้กินเล่น ยามว่าง เช่นกันครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook