สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ต้นกัลปพฤกษ์ ให้ดอกไม้สีม่วงอมชมพู

ต้นกัลปพฤกษ์ เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในบริเวณป่าทั่วไปในประเทศเมียนมาร์ (เดิมเรียกว่าพม่า) และประเทศไทย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Pink Shower เป็นพืชในตระกูลถั่ว ที่ให้ดอกไม้สีม่วงอมชมพูอันหอมกรุ่น ประดับด้วยเกสรตัวผู้สีเหลืองเด่นงามตา ซึ่งจะบานในช่วงปลายมีนาคมและเมษายน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปีที่แตกต่างกันไป ซึ่งอาจทำให้ดอกบานช้าลงได้ หลังจากผลิดอกบานสะพรั่งเราก็จะได้เห็นฝักยาวๆ ของไม้ชนิดนี้ ที่มีลักษณะคล้ายถั่วฝักยาวอวบๆ ห้อยย้อยไปทั่ว และยังจัดว่าเป็นหนึ่งในไม้ที่มีนามมงคล ลักษณะต้นสง่างาม จึงได้รับความนิยมในการนำมาปลูกในสถานที่ต่างๆ  และยังปลูกเป็นไม้ให้ร่มเงาในพื้นที่สาธารณะ ริมถนน เพราะทนแล้งและสามารถปลูกได้ในดินทุกสภาพแม้ว่าดินนั้นจะขาดความสมบูรณ์ก็ยังสามารถเจริญเติบโตได้ ทำให้ไม่ต้องบำรุงมากนัก

ส่วนต่างๆ ของต้นกัลปพฤกษ์ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน ในยุคที่ยังเคี้ยวหมากกันอยู่ผู้เฒ่าผู้แก่จะนำฝักของไม้ชนิดนี้มาเคี้ยวเข้ากันกับหมาก นอกจากนั้นคนโบราณยังมีความเชื่อว่าเป็นไม้แห่งสวรรค์ หากมีความประสงค์อยากได้สิ่งใดจะไปอธิษฐานขอสิ่งนั้นจากต้นกัลปพฤกษ์ และหากบ้านเรือนไร่สวนใดได้ปลูกไว้ในอาณาบริเวณ จะทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับสิริมงคล พบแต่ความเจริญรุ่งเรือง มีความก้าวหน้า มีชัยชนะ เป็นที่เคารพเมตตาแก่ผู้พบเห็น  และยังนิยมนำกิ่งกัลปพฤกษ์มาทำเป็นด้ามธงเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

ลักษณะโดยทั่วไปของต้นกัลปพฤกษ์นั้นจะมีความสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 12 เมตร จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีทรงพุ่มไม่ทึบ กิ่งก้านแผ่กว้าง แตกกิ่งตั้งแต่กลางต้นทอดยาวไปจนถึงยอด มีใบประดับประดาและกิ่งก้านโค้งที่แข็งแรง มีเปลือกของลำต้นเรียบ สีเทาและกิ่งก้านอ่อนทั้งหมดมีขนหนาแน่น ใบมีสีเขียวเข้ม มีขนอ่อนนุ่มทั้งบริเวณแผ่นใบและท้องใบ ใบเรียงสลับกันแบบปีกนก และมีความยาวตั้งแต่ 30 เซนติเมตรขึ้นไป นอกจากนี้ใบยังมีแผ่นพับรูปขอบขนาน 5 ถึง 7 คู่แต่ละใบยาว 2.5 ถึง 5 เซนติเมตร การเรียงตัวของใบนั้นจะมีใบขนาดใหญ่บริเวณโคนและไล่ขนาดให้เล็กลงไปเรื่อยๆ ด้านปลายยอด ขณะที่แตกใบอ่อนก็จะออกดอกเป็นกลุ่มตามกิ่งไปพร้อมกัน มีความยาวได้ถึง 10 เซนติเมตร และมีก้านดอกยาวได้ถึง 6 เซนติเมตร บริเวณโคนดอกมีใบประดับปลายใบแหลมโอบล้อม เมื่อแตกดอก ดอกจะมีสีชมพูและดอกแก่เต็มที่จะมีสีขาวก่อนที่จะโรยราไป ฝักเป็นทรงกระบอกเรียวยาว มีลักษณะเว้าคอดเป็นบางช่วง ฝักอ่อนมีสีเขียว มีขนอ่อนปกคลุม เมื่อแก่จัดจะมีเทาดำ ตรงกลางฝักมีเมล็ดจำนวนมาก สามารถนำมาเมล็ดมาใช้เพื่อขยายพันธุ์ต่อไปได้

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook