สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

แหล่งน้ำบาดาลระดับตื้น

แหล่งน้ำบาดาลระดับตื้นเป็นทรัพยากรที่สำคัญสำหรับการทำเกษตร เพราะเป็นแหล่งชลประทานอีกแหล่งหนึ่งสำหรับการเพาะปลูกและการยังชีพสำหรับพืชผล อย่างไรก็ตาม หลายคนไม่คุ้นเคยกับคำจำกัดความของแหล่งน้ำบาดาลระดับตื้นและความสำคัญต่อการเกษตร ในบทความนี้ เราจะมาเล่าให้ฟัง

แหล่งน้ำบาดาลระดับตื้น หมายถึง น้ำที่พบในระดับความลึกที่ใกล้กับพื้นผิวโลก โดยทั่วไปจะอยู่ห่างจากพื้นดินไม่กี่ร้อยเมตร โดยทั่วไปแล้วจะพบในชั้นหินอุ้มน้ำ ซึ่งเป็นชั้นหินหรือดินใต้ดินที่สามารถซึมผ่านได้มากพอ แหล่งน้ำบาดาลระดับตื้นแตกต่างจากน้ำใต้ดินระดับลึก ซึ่งพบได้ในระดับความลึกที่มากกว่าและไม่สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าน้ำบาดาลเป็นแหล่งน้ำที่มีความสำคัญในการเกษตรในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีแนวโน้มที่จะเกิดภัยแล้ง แม้ว่าน้ำผิวดินจะขาดแคลนก็ตามแต่แหล่งน้ำบาดาลระดับตื้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในยามคับขันได้  เพราะน้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อการอยู่รอดของพืชผล

แหล่งน้ำบาดาลระดับตื้นยังมีความสำคัญต่อการรักษาความชื้นในดินและปกป้องพืชผลจากความเสียหายเนื่องจากสภาพแห้งแล้ง เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง และข้าวสาลีที่ไวต่อความแห้งแล้ง นอกจากนี้ แหล่งน้ำบาดาลประเภทนี้ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงของภัยแล้งในการเพาะปลูกได้ เกษตรกรสามารถใช้น้ำในปริมาณที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งสามารถเพิ่มผลผลิตพืชผลและลดการสูญเสียน้ำ

การลดลงของแหล่งน้ำบาดาลระดับตื้นเป็นปัญหาที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับเกษตรกรและชุมชนเกษตรกรรมจำนวนมาก สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำลดลงต่ำมากจนเมื่อเราไม่สามารถจะเจาะลงไปพบได้โดยง่าย สาเหตุหลายประการที่ทำให้น้ำใต้ดินลดลง เช่น การสูบน้ำมากเกินไป ภัยแล้ง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้การสูบน้ำมากเกินไปเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดประการหนึ่งของการพร่องของน้ำใต้ดินในระดับตื้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเกิดการเจาะน้ำที่ลึกเกินไปหรือมีการเจาะบ่อในพื้นที่มากเกินกว่าที่ชั้นดินจะสามารถรองรับได้

ภัยแล้งเป็นสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้แหล่งน้ำบาดาลระดับตื้นตื้นเขินยิ่งขึ้น เพราะเกิดความต้องการน้ำเพิ่มขึ้นหากไม่มีฝนตกเพียงพอ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อุณหภูมิสูงขึ้นทำให้น้ำในดินเกิดการระเหยที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลยังนำไปสู่การรุกล้ำของน้ำเค็มในชั้นหินอุ้มน้ำชายฝั่ง ทำให้น้ำใต้ดินไม่สามารถดื่มได้และไม่สามารถนำมาใช้เพื่อการชลประทานได้

เพื่อแก้ปัญหาน้ำใต้ดินลดลง เกษตรกรและชุมชนเกษตรกรรมสามารถใช้แนวปฏิบัติในการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เช่น การใช้น้ำหยดและวิธีการให้น้ำที่แม่นยำอื่นๆ เช่นเดียวกับการใปลูกพืชที่ทนแล้งทดแทนพืชที่ต้องการน้ำสูง การจัดการและอนุรักษ์ที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยรักษาระดับน้ำของแหล่งน้ำบาดาลระดับตื้นสำหรับการดูแลและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook