การปลูกต้นหอมในกระถางไว้กินเองที่บ้าน รวมถึงการปลูกพืชผักสวนครัวชนิดอื่นด้วย อย่างเช่น พริกกะเพรา โหระพา ผักชี ฯลฯ เป็นกระแสที่ได้รับความนิยมกันมานานแล้ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ผู้คนพากันตื่นตัว ในเรื่องความปลอดภัยของอาหารการกินชนิดต่างๆ ทั้งการปนเปื้อนสารเคมี หรือการมีสารพิษตกค้างที่มองไม่เห็น ซึ่งการตื่นตัวด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพเหล่านี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีงามอย่างยิ่ง เพราะการดูแลรักษาสุขภาพของตนให้แข็งแรงไว้ก่อน เป็นการสร้างภูมิคุ้มและรักษาโรคได้ดีที่สุด
แต่ถึงอย่างไรกระแส ปลูกผักสวนครัวชนิดต่างๆ ไว้กินเองที่บ้านนั้น ก็ยังไม่เอื้อสำหรับคนทุกคน เพราะยังมีข้อจำกัดในชีวิตประจำวันอีกมากมาย และที่สำคัญถ้าไม่ได้มีใจรักในการปลูกจริงๆ โดยมากก็จะล้มเลิกและทิ้งไปกลางคัน ซึ่งทำให้แวดวงการปลูกพืชผักสวนครัวในเชิงการค้า ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญอยู่ต่อไป โดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ และเพื่อนๆ เกษตรกรมือใหม่ส่วนใหญ่ก็มีความสนใจปลูกพืชไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือการหันมาปลูกพืชที่ให้ผลผลิตเร็วที่สุด ระยะเวลาเพาะปลูกสั้นที่สุด มีโอกาสได้เงินสูงที่สุด ซึ่งมักจะได้แก่การปลูกต้นหอม
ต้นหอมเป็นพืชผักที่ใช้เป็นวัตถุดิบในหลายเมนู ทั้งผัด ยำ แกง ทำให้เป็นที่ต้องการตลาดทั้งนำไปทำอาหารในครัวเรือนและแม้กระทั่งในภัตตาคารก็ยังต้องใช้ ทำให้มีตลาดรอรับซื้ออย่างแน่นอนครับ
การปลูกต้นหอม หรือที่นิยมเรียกว่า หอมแบ่ง มีจุดเด่นคือ เก็บเกี่ยวได้ภายใน 45 วันโดยประมาณ เป็นผักที่เป็นที่ต้องการของตลาดแน่นอน วิธีการปลูกง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อน และทนได้กับสภาพอากาศโดยทั่วไป วิธีการปลูกแม้จะดูง่าย แต่วิธีการในการดูแลรักษาให้รอดพ้นจากบรรดาแมลงศัตรูพืชทั้งหลาย รวมไปถึงเชื้อโรคพืชที่คอยสร้างความเสียหาย และวิธีการแก้ไขปัญหาที่นิยมใช้กันนั้น เราก็จำเป็นต้องศึกษาอย่างถี่ถ้วน
ถึแม้ว่า การปลูกต้นหอมนั้น ใครๆ มองว่าเป็นเรื่องง่าย แต่ถ้าไม่มีแหล่งน้ำเพียงพอก็ไปไม่รอด เพราะการปลูกต้นหอมจะต้องใช้น้ำอยู่ตลอ ดเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้ดินอยู่เสมอ ตลอดระยะเวลาที่ปลูกก็ต้องใช้ปุ๋ย ใช้สารฮอร์โมนคอยกระตุ้นการเจริญเติบโตเร่งรากเร่งใบ นอกจากนี้สารที่ใช้กำจัดเชื้อรา ต้นเหตุของโรคใบจุด รากเน่า รวมไปถึงสารกำจัดแมลงศัตรู อย่าง หนอนกะทู้หอม เพลี้ยไฟหอม ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่เกษตรกรผู้ปลูกต้นหอมเชิงการค้า แทบจะขาดไปไม่ได้ ซึ่งล้วนเป็นต้นทุนที่สูงทั้งสิ้น ถ้ารอบไหนเก็บเกี่ยวแล้วราคารับซื้อไม่ดี ต้นทุนต่างๆ เหล่านี้ก็อาจทำให้ขาดทุน
ดังนั้น หากเพื่อนๆ เกษตรกรจะวางแผนปลูกต้นหอมเชิงพาณิชย์ จะต้องวางแผนให้รอบด้าน เพราะหากวางแผนได้ดีแล้ว ย่อมทำให้เกิดกำไรได้แน่นอนครับ