เมื่อพูดถึงศัตรูพืชที่คอยทำร้ายต้นพืชสวนหัวไร่ปลายนาของเราแล้ว วัชพืชถือเป็นปัญหาที่น่าหนักใจไม่น้อย เพราะที่คอยแก่งแย่งอาหารและน้ำ รวมทั้งแสงแดดที่ใช้ในการผลิตอาหารของพืชหลักที่สร้างผลกำไรให้แก่เรา หากเป็นวัชพืชที่มีความแข็งแก่งมากก็จะสามารถปรับตัวตามสภาพอากาศได้ดี รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี ไม่ว่าจะดินแบบไหน น้ำแล้งแค่ไหน วัชพืชก็จะสามารถเติบโตและแผ่ขยายในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว โดยวัชพืชที่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีและขยายพันธุ์ได้ในเวลารวดเร็วก็ได้แก่ ผักตบชวา พืชในวงศ์หญ้าหลากหลายชนิดรวมทั้งหญ้างวงช้างอีกด้วยครับ
หญ้างวงช้าง เป็นพืชล้มลุกที่มีความสามารถในการขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว เป็นพืชพุ่ม มีใบสีเขียว ผิวใบขรุขระ ลายใบเห็นชัด ขอบใบโค้งหยักเพียงเล็กน้อย โคนใบจะโค้งมน ส่วนปลายใบจะแหลม มีขนปกคลุมทั่วทั้งใบไปจนถึงก้านและดอก เป็นพืชที่มีก้านสีเขียวเข้มแตกกิ่งก้านใบออกโดยรอบและมีดอกอยู่บนปลายกิ่ง ดอกจะออกโค้งเป็นช่อคล้ายงวงช้าง เป็นดอกเล็กๆ มีสีเขียวและสีม่วง
หญ้างวงช้างเป็นหญ้าวัชพืชที่มีประโยชน์โดยมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรที่หมอพื้นบ้านโบราณได้นำมาส่วนต่างๆ ของต้นหญ้ามาบำบัดรักษาอาการต่างๆ โดยนำใบสดๆ มาคั้นน้ำเพื่อดื่มช่วยบรรเทาภาวะเบาหวาน หรือจะนำน้ำที่คั้นได้ไปหยอดตาลดอาการตามัว ถ้ามีแผลในปากก็สามารถนำมากลั้วปากวันละ 4 ครั้ง ส่วนหญ้าทั้งต้นนั้นสามารถนำมาต้มในน้ำสะอาดเพื่อดื่มขับพิษไข้ แก้ร้อนใน แก้ไอ บำรุงปอด หรือจะนำไปเข้าตำรับกับต้นว่านน้ำและหญ้าชั้วจ้างหม่อ เพื่อใช้เป็นยาแก้ท้องเสียก็ได้
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อหญ้าชนิดนี้สามารถแพร่กระจายพันธุ์เร็วเกินไป จนเกิดความเสียหายแก่พืชผลของเรา ดังนั้นเราจะต้องกำจัดและควบคุมให้ได้ โดยสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ไถพรวนดินตากแดดไว้ราว 2-4 สัปดาห์ ก็สามารถกำจัดหญ้าดังกล่าวได้แล้ว หรืออาจจะสังเกตว่ามีหญ้างวงช้างขึ้นบริเวณสวนผักไร่อ้อย ไร่ข้าวที่ปลูกหรือไม่ หากพบหญ้างวงช้างก็ให้ทำการถอนรากถอนโคนนำไปกำจัดนอกแปลงและทำการพรวนดินบริเวณดังกล่าวเพื่อกำจัดเมล็ดรวมทั้งส่วนลำต้นของหญ้างวงช้างให้หมดไปจากแปลงปลูกของเรา ส่วนการป้องกันไม่ให้หญ้าชนิดนี้มาเจริญเติบโตในสวนของเราก็เพียงแค่นำต้นพันธุ์ที่ไม่มีวัชพืชหรือเมล็ดติดมาด้วย โดยสังเกตก่อนที่จะย้ายต้นพันธุ์ลงแปลงปลูก เพียงเท่านี้ก็สามารถกำจัดหญ้างวงช้างวัชพืชออกจากพืชผัก ไร่ นา เราได้แล้วครับ