จิ้งเหลน ภาษาอังกฤษเรียกว่า Skinks หลายคนเคยมีคำถามว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานอย่างจิ้งเหลน มีกระดูกสันหลังไหม ซึ่งคำตอบก็คือ มีกระดูกสันหลัง เพราะถูกจัดอยู่ในไฟลัม Chordate จัดเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีกระดูกสันหลัง สัตว์ชนิดนี้มีสายพันธุ์นับพันสายพันธุ์ แม้ว่าบางพันธุ์จะมีลักษณะภายนอกคล้ายกับกิ้งก่า แต่ส่วนใหญ่จะมีขาที่เล็กกว่าและไม่มีแผงคอที่โดดเด่นเหมือนกิ้งก่า ผิวของจิ้งเหลนจะปกคลุมไปด้วยเกล็ดที่วาวมัน เรียบลื่น การเรียงตัวของเกล็ดที่เป็นระดับต่อเนื่องคล้ายเกล็ดปลาทำให้เกิดเป็นผิวที่มีสีเลื่อมมันหลายสี ปรับตัวตามสภาพแวดล้อม บางพันธุ์มีแขนขาและนิ้วที่ลดลง
การเคลื่อนไหวของจิ้งเหลนนั้นจะมีความคล้ายคลึงกับการเคลื่อนไหวของงู มีหางยาวคล้ายงู และหางสามารถงอกใหม่เองได้ภายในระยะเวลา 3-4 เดือนหากถูกทำร้าย โดยหากถูกจับบริเวณหาง จิ้งเหลนจะบิดตัวและทำให้หางขาดเพื่อจะหลบหนีจากการไล่ล่า และสร้างหางขึ้นใหม่ซ่อมแซมแทนส่ววนที่ขาดไป แม้ว่าจะไม่ยาวและสมบูรณ์ก็ตาม ขนาดลำตัวส่วนใหญ่มีความยาวประมาณ 12 เซนติเมตร แต่หากเป็นพันธุ์ที่พบบนเกาะโซโลมอนจะมีขนาดลำตัวยาวถึง 35 เซนติเมตรซึ่งนับว่าเป็นพันธุ์ที่มีตัวใหญ่ที่สุด ส่วนขนาดที่เล็กที่สุดจะมีความยาวประมาณ 7.5 เซนติเมตร
จิ้งเหลนมีพฤติกรรมเป็นนักขุด ชอบอาศัยอยู่ในโพรงดินเพื่อกลบดานตัวจากศัตรู บางครั้งยังสามารถพบเห็นได้ในที่อับชื้นใต้อาคารหรือโรงจอดรถ กินสัตว์เล็กเป็นอาหาร เช่นแมลงวัน จิ้งหรีด หนอน เป็นต้น แต่บางพันธุ์ก็กินพืชเป็นอาหาร สัตว์ชนิดนี้สามารถใช้ชีวิตได้เกือบทุกที่ทั่วโลกเพราะปรับตัวได้เก่ง สามารถอยู่ในแหล่งน้ำตื้น ทะเลทราย บนพื้นดิน และบนต้นไม้ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แต่ไม่สามารถมีชีวิตในเขตขั้วโลกได้ เพราะมีอากาศที่หนาวเย็นมากเกินไป ศัตรูที่ตัวสำคัญของจิ้งเหลนคือ งู อีกา แมว เหยี่ยว และพังพอนที่ไล่ล่าสัตว์ต่างๆ เป็นอาหาร จนทำให้จิ้งเหลนบางพันธุ์สูญพันธุ์ลงไป เช่น พันธุ์ Alborn ซึ่งเคยพบครั้งสุดท้ายราวๆ ปี 1990 ซึ่งคาดว่าจะถูกคุกคามโดยหนูจนปัจจุบันอาจจะสูญพันธุ์ไปแล้วก็ได้ พันธุ์ Barrier ที่เคยพบเห็นได้แทบเทือกเขาแอลป์มักอาศัยอยู่ตามซอกหิน ก็ถูกคุกคามจากสัตว์กินเนื้อจนใกล้จะสูญพันธุ์
จิ้งเหลนเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ เพราะเป็นสัตว์ที่ล่าแมลงขนาดเล็กอย่างตั้กแตนหรือหอยทาก ซึ่งเป็นศัตรูพืชในสวน ซึ่งเป็นวิธีทางธรรมชาติในการดูแลและปกป้องพืชในแปลงปลูก ช่วยรักษาสมดุลให้เกิดขึ้น ดังนั้นการปล่อยให้จิ้งเหลนอาศัยอยู่ในแปลงเพาะปลูกของเราก็จะเป็นวิธีกำจัดศัตรูพืชที่ไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีได้ครับ