ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคการเกษตร การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ โครงการพัฒนาระบบคาดการณ์น้ำเพื่อการเกษตรจึงเกิดขึ้นเพื่อช่วยเกษตรกรไทยรับมือกับความท้าทายนี้ โดยมีการทดสอบในพื้นที่ลุ่มน้ำสาขาลำน้ำเสียวของลุ่มน้ำมูล
โครงการมุ่งแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ำในภาคเกษตรของไทย ซึ่งกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการก่อนหน้า ที่ได้พัฒนาแพลตฟอร์มระบบคาดการณ์น้ำเชื่อมโยงกับระบบติดตามสภาวะการเกษตรในพื้นที่จริง 3 แห่ง ซึ่งเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
เครดิตภาพ: Wisła w Warszawie – niski stan wody โดย Bernard NoK | Wikimedia Commons | CC BY-SA 4.0
การวิจัยในปีแรก (กุมภาพันธ์ 2565 ถึงกุมภาพันธ์ 2566) ทีมวิจัยได้ทดลองใช้ระบบคาดการณ์น้ำในฤดูฝนปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่มีน้ำมาก และใช้ข้อมูลจากระบบเพื่อเสนอแนะรูปแบบการเพาะปลูกพืชในฤดูแล้งปี 2565/2566 ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ต้นแบบ ผลการทดสอบพบว่าระบบ สามารถคาดการณ์ปริมาณน้ำในฤดูฝนได้แม่นยำถึงประมาณร้อยละ 80 ทั้งในการคาดการณ์ระยะยาวรายฤดูกาลและระยะสั้น 14 วัน ช่วยให้เกษตรกรสามารถปรับตัวและเพิ่มรายได้จากการเพาะปลูก ผลการทดสอบของกลุ่มเกษตรกรต้นแบบมีดังนี้ :
- กลุ่มแปลงเกษตรกรรมที่ 1 สามารถติดตามปริมาณความเค็มของดินจากระดับน้ำในลำน้ำ ปรับเปลี่ยนชนิดพืชและช่วงเวลาการเพาะปลูกให้เหมาะสม ลดต้นทุนและความเสียหายของผลผลิต
- กลุ่มแปลงเกษตรกรรมที่ 2 สามารถเพิ่มรายได้จากการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง (แตงโม) ได้ไร่ละ 7,000 ถึง 12,000 บาทต่อฤดูกาล โดยเริ่มฤดูกาลเพาะปลูกในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
- กลุ่มแปลงเกษตรกรรมที่ 3 ได้เสนอแนะให้เพาะปลูกพืชหลังนา เช่น ถั่ว งา เพื่อเพิ่มรายได้โดยใช้ข้อมูลคาดการณ์น้ำล่วงหน้า 14 วัน
การคาดการณ์สภาพน้ำในฤดูฝนปี 2566 (พฤษภาคม – ตุลาคม) อ้างอิงจาก ENSO ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ส่งผลต่อสภาพอากาศทั่วโลก และผลการวิจัยในปี 2565 คาดว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติค่อนไปทางน้ำน้อย (เอลนีโญ) โดยคาดว่าปริมาณฝนในลุ่มน้ำมูลจะมากกว่าค่าเฉลี่ยเพียงร้อยละ 2 แต่น้อยกว่าปี 2565 ประมาณร้อยละ 10 โดยลุ่มน้ำมูลตอนล่างอาจมีฝนน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ขณะที่ตอนกลางอาจมีฝนมากกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย และตอนบนคาดว่าจะใกล้เคียงค่าเฉลี่ย
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มระบบคาดการณ์น้ำและระบบสนับสนุนการตัดสินใจวางแผนปฏิบัติการทำเกษตรกรรมดังกล่าว สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) ได้สนับสนุนทุนวิจัยสำหรับการทดสอบเทคโนโลยีในพื้นที่ต้นแบบที่หลากหลาย โดยมุ่งเน้นการประเมินประสิทธิภาพของเครื่องมือและการเชื่อมต่อข้อมูลในสถานการณ์จริง นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายในการส่งเสริมการทำเกษตรกรรมที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับปริมาณการใช้น้ำที่เหมาะสมในแต่ละฤดูกาล ซึ่งจะช่วยเกษตรกรในการตัดสินใจวางแผนการเพาะปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โครงการพัฒนาระบบคาดการณ์น้ำการเกษตรนี้เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับภาคเกษตรกรรมไทยสู่ยุคดิจิทัล การทดสอบและประเมินประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มในพื้นที่จริงที่มีความหลากหลาย จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับในหมู่เกษตรกร ซึ่งจะนำไปสู่การใช้งานอย่างแพร่หลายในอนาคต
ความสามารถของระบบในการให้ข้อมูลที่แม่นยำเกี่ยวกับสภาพน้ำและการแนะนำการเพาะปลูกที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มผลผลิตและลดความเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืนและปลอดภัย โดยการผสมผสานข้อมูลจากหลายแหล่ง ทั้งการคาดการณ์และการตรวจวัดจริงในพื้นที่ ทำให้เกษตรกรสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและความต้องการของตลาด
ในท้ายที่สุด ความสำเร็จของโครงการนี้จะไม่เพียงส่งผลดีต่อเกษตรกรรายบุคคลเท่านั้น แต่ยังจะมีส่วนสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทยโดยรวม สร้างความมั่นคงทางอาหาร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว การสนับสนุนและต่อยอดโครงการเช่นนี้จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับอนาคตของภาคเกษตรกรรมไทย