ในยุคที่ทรัพยากรน้ำมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตและการพัฒนาประเทศ การบริหารจัดการน้ำจึงเป็นภารกิจที่ท้าทายและซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของสภาพอากาศและความต้องการน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความท้าทายนี้ เทคโนโลยีฝนหลวงได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ
เทคโนโลยีฝนหลวงเป็นนวัตกรรมที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงคิดค้นขึ้นและพระราชทานให้ใช้ในประเทศไทย การวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการฝนหลวงจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบต่อการปฏิบัติการฝนหลวง มีภารกิจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำในชั้นบรรยากาศ เพื่อให้เกิดฝนในปริมาณและการกระจายที่เหมาะสม ด้วยเป้าหมายที่ครอบคลุมทั้งการพัฒนาการเกษตร การจัดการทรัพยากรน้ำ การอนุรักษ์ป่าไม้ และการบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างบูรณาการ
เครดิตภาพ: Khao Yai, Thailand, Khao Yai grasslands under the rain, tropical monsoon โดย Vyacheslav Argenberg | Wikimedia Commons | CC BY 4.0
ตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2561 กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ดำเนินการบริหารจัดการด้านการบินเพื่อทำฝน วิจัยพัฒนาเทคโนโลยี และแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในภาคเกษตรกรรม การกำหนดพื้นที่เป้าหมายในการทำฝนหลวง อิงตามแผนที่เสี่ยงภัยแล้งและคำร้องขอจากประชาชนเป็นหลัก ซึ่งบางครั้งไม่ทันต่อสถานการณ์ ทำให้ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร
จากการวิจัยและพัฒนาระบบสารสนเทศเชิงพื้นที่เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการฝนหลวงที่ผ่านมาในปีที่ 1 และ ปีที่ 2 ได้ผลสำเร็จเป็นแผนที่ระดับประเทศแสดงสภาพการขาดน้ำในดินและแผนที่พยากรณ์ความต้องการน้ำของพืชหลัก อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น ปริมาณฝนสะสม 7 วัน คำขอฝนจากประชาชน ซึ่งการตัดสินใจส่วนใหญ่ยังอาศัยประสบการณ์ของผู้รับผิดชอบเป็นหลัก กรมฝนหลวงและการบินเกษตรจึงจำเป็นต้องพัฒนาเครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เพื่อระบุพื้นที่เป้าหมายและลำดับความสำคัญในการปฏิบัติการฝนหลวงได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
คณะผู้วิจัยจึงมีแนวคิดในการพัฒนาแพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมทางดิจิทัลและสร้างเครือข่ายอาสาสมัครฝนหลวง เพื่อรายงานข้อมูลย้อนกลับจากพื้นที่ปฏิบัติการ โดยใช้การสื่อสารไร้สายสองทางและแอปพลิเคชันมือถือ ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการปฏิบัติการและการประเมินผล
การพัฒนาเทคโนโลยีฝนหลวงและระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการปฏิบัติการฝนหลวงนับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศไทย แผนงานวิจัย “การวิจัยและพัฒนาระบบสารสนเทศเชิงพื้นที่เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการฝนหลวง ปีที่ 3” ได้รับการสนับสนุนจาก สวก. นั้น แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “ประเทศไทย 4.0”
การพัฒนาแผนที่ลำดับความสำคัญปฏิบัติการฝนหลวงและแพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมทางดิจิทัล ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการอย่างแท้จริง ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาภัยแล้งและการจัดการทรัพยากรน้ำที่ตรงจุดและยั่งยืนมากขึ้น
ความสำเร็จของโครงการนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ นักวิจัย และประชาชน ในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาสำคัญของประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการน้ำที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพในอนาคต
ผลงานวิจัยไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหารและเศรษฐกิจให้กับประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะในบริบทของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ท้าทายมากขึ้น การพัฒนาเทคโนโลยีฝนหลวงและระบบสนับสนุนที่เกี่ยวข้องจึงเป็นนวัตกรรมที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอนาคตของประเทศไทย