ในยุคปัจจุบันที่วิทยาการทางการแพทย์มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านโภชนาการ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วย อาหารทางการแพทย์ (Medical Food) จึงเป็นนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการทางโภชนาการเฉพาะของผู้ป่วยแต่ละราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยเบาหวานซึ่งต้องการการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเคร่งครัด
การให้โภชนบำบัดในผู้ป่วยมักทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากอาหารส่วนใหญ่มีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลัก นอกจากนี้ ความเจ็บป่วยและความเครียดยังเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดด้วย เพื่อลดภาวะแทรกซ้อน จึงมีการพัฒนาอาหารทางการแพทย์สูตรเบาหวาน ที่ประกอบด้วยปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสม ใช้คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เพิ่มใยอาหาร และใช้ไขมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง อาหารเหล่านี้ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและโคเลสเตอรอลในเลือด เพิ่มประสิทธิภาพการหลั่งอินซูลิน ชะลอการดูดซึมน้ำตาล มีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยลดลง และมีความผันแปรลดลง
การศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าอาหารทางการแพทย์สูตรเบาหวานช่วยปรับปรุงผลการรักษาให้ดีขึ้น เช่น ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดอัตราการติดเชื้อและการเสียชีวิต ลดค่าใช้จ่ายในการรักษา และลดระยะเวลาการนอนโรงพยาบาลในผู้ป่วยเบาหวาน อย่างไรก็ตาม อาหารเหล่านี้ยังมีราคาสูง ผู้ป่วยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง และการผลิตยังต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นข้อจำกัดในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์
ตลาดอาหารทางการแพทย์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย ในสหรัฐอเมริกา คาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มจาก 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 เป็น 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2570 ส่วนในประเทศไทย ตลาดกำลังเติบโตที่ร้อยละ 20 ต่อปี โดยมีมูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่คนไทยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น
การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์โดยใช้วัตถุดิบจากข้าวและนมที่ผลิตในประเทศไทยมีความเป็นไปได้สูง ซึ่งนอกจากจะเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบในประเทศแล้ว ยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดอาหารทางการแพทย์ทั้งในประเทศและระดับโลก การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและเหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วยเฉพาะโรคจึงเป็นสิ่งสำคัญและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
โครงการวิจัย“การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยและผู้ที่มีเบาหวาน โดยใช้น้ำนมหรือน้ำนมปราศจากน้ำตาลแลคโตสและข้าวเป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อทดแทนผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศ” ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) มีเป้าหมายหลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์มูลค่าสูงของไทยที่สามารถแข่งขันได้ในตลาด
ในปีแรกของโครงการ (พ.ศ. 2565) ทีมวิจัยได้พัฒนาสูตรและกระบวนการผลิตอาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยทั่วไปและผู้ที่มีเบาหวาน โดยใช้น้ำนมปราศจากน้ำตาลแลคโตสและน้ำนมสูตรปกติผสมกับข้าวเป็นส่วนประกอบหลัก นอกจากนี้ยังได้ทำการศึกษาทางคลินิกเพื่อวัดค่าดัชนีน้ำตาลของผลิตภัณฑ์ทั้งสองสูตรในอาสาสมัครปกติ
ปีที่สองของโครงการมุ่งเน้นการพัฒนาการผลิตในระดับอุตสาหกรรม การควบคุมคุณภาพ และการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีเบาหวาน รวมถึงการศึกษาทางคลินิกระยะยาวในอาสาสมัครที่มีภาวะอ้วนลงพุงและระดับน้ำตาลในเลือดสูง เพื่อประเมินผลของการใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารต่อระดับน้ำตาลในเลือดและภาวะแทรกซ้อน ข้อมูลเหล่านี้ได้นำไปใช้ประกอบการขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ที่มีเบาหวานต่อไป
งานวิจัยนี้ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการใช้ทรัพยากรในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำวัสดุเหลือใช้จากข้าวและอ้อยมาใช้ประโยชน์ รวมถึงการใช้น้ำนมและส่วนผสมอาหารที่ผลิตในประเทศ ผลลัพธ์ของโครงการนี้จะช่วยสร้างรายได้ให้กับประชาชนและประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ เพิ่มการใช้ประโยชน์จากพืชเศรษฐกิจ และพัฒนาศักยภาพการผลิตของอุตสาหกรรมไทย
โครงการวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของประเทศไทยในการพัฒนานวัตกรรมด้านอาหารทางการแพทย์ โดยใช้ทรัพยากรภายในประเทศอย่างชาญฉลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยเบาหวานไม่เพียงแต่จะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ยังเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรของไทยสู่มาตรฐานสากล ส่งผลดีต่อทั้งเศรษฐกิจและสาธารณสุขของประเทศ โดยช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร สร้างงาน สร้างรายได้ และที่สำคัญคือช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถเข้าถึงอาหารทางการแพทย์ที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบสาธารณสุขและคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยอย่างยั่งยืน