ต้นข่า เชื่อว่าคนไทยทุกคนต้องรู้จักกันดี ต่อให้ไม่ได้เป็นเกษตรกร หรือ เป็นคนไม่ชอบปลูกต้นไม้ ถ้าได้กินต้มยำ ต้มแซบ ต้มข่าไก่ ซึ่งเป็นเมนูอาหารประจำชาติแล้ว อย่างไรก็ต้องรู้จักทุกคน ในฐานะของพืชผักสวนครัวขั้นพื้นฐาน เป็นเครื่องเทศที่ใช้ปรุงอาหาร รวมไปถึง การเป็นยาสมุนไพรตัวหนึ่งที่มีสรรพคุณอันเป็นประโยชน์มากมาย ทำให้ข่าเป็นพืชเศรษฐกิจพื้นบ้าน ที่มีความมั่นคงในเรื่องความต้องการบริโภค แต่เรื่องราคารับซื้อผลผลิต อาจจะดีบ้าง ตกต่ำบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาด ถ้าปลูกกันมากจนล้นตลาด ราคาก็ต้องตกเป็นเรื่องปกติ แต่เรื่องที่น่าสนใจและไม่ค่อยมีใครสังเกตคือเวลาที่ข่าราคาตก จะตกไม่มากและตกต่ำไม่นาน เพราะตลาดมีความต้องการที่แน่นอน และมีแต่แนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆ
ในปัจจุบันการปลูกต้นข่าแทบไม่อยู่ในกระแสความนิยมของเพื่อนๆ เกษตรกรทั่วไป จึงทำให้ข่ามีผลผลิตออกสู่ตลาดแบบทรงตัว มีราคาตลาดที่นิ่งแต่ก็คุ้มค่าต่อการปลูกและอาจมีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะนอกจากสรรพคุณด้านสมุนไพรที่เป็นยาแล้ว ข่ายังมีสรรพคุณที่ช่วยกำจัดแมลงศัตรูพืชได้ดีอีกด้วยซึ่งกลุ่มเพื่อนๆ เกษตรกรที่หันมาทำเกษตรอินทรีย์ เพาะปลูกพืชแบบปลอดสารเคมี ก็อาศัยข่าและพืชสมุนไพรชนิดอื่นมาใช้ในการกำจัดแมลงศัตรูพืช ตามภูมิปัญญาพื้นบ้านกันมานานแล้ว และก็มีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา ตามกระแสการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตด้วยเกษตรอินทรีย์
ต้นข่า เป็นพืชล้มลุกวงศ์เดียวกับขิง เป็นพืชสมุนไพรที่ใช้น้ำน้อย เติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี ไม่ชอบที่น้ำขัง หากมีร่มเงาบังแสงด้วยยิ่งดี มีส่วนที่ใช้ขยายพันธุ์เรียกว่า เหง้า อยู่ใต้ดินอายุในการเก็บเกี่ยว ทุกๆ 6 – 8 เดือนหลังปลูกเหง้า ที่นิยมในบ้านเราตอนนี้ คือ ข่าเหลือง และ ข่าตาแดง ซึ่งมีความนิย พอๆกัน โดยเฉลี่ยแล้วข่า 1 ไร่ใช้เหง้าพันธุ์ประมาณ 500 กิโลกรัม เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตจะได้ผลผลิตประมาณ 1,500 – 2,500 กิโลกรัม ซึ่งจะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยธรรมชาติอื่นอีกด้วย สมมุติว่า ราคาเหง้าพันธุ์และผลผลิตเท่ากัน เช่น 30 บาทต่อกิโลกรัม เราก็อาจมีรายได้ต่อไร่ 30,000 บาทขึ้นไป ในเวลา 8 เดือน ซึ่งเป็นเพียงการยกตัวอย่างให้เห็นภาพกว้างๆ เท่านั้นนะครับ
เพื่อนเกษตรกรคนไหนที่ยังไม่เคยปลูกต้นข่า ถ้าสนใจก็ลองแบ่งพื้นที่เล็กๆ ในบ้านมาทดลองปลูกข่า ไว้กินใช้เอง หรือเป็นไม้ประดับก็ได้ เพราะมีทรงพุ่มใบและดอกสวยงาม หรือในสวนที่ทำเกษตรแบบผสมผสาน จะแบ่งพื้นที่บางส่วนมาปลูกข่า เพื่อเอามาใช้ทำสารอินทรีย์ กำจัดแมลงศัตรูพืชก็ได้ เพราะถ้าไปหาซื้อข่า มาเองจากตลาดราคาจะแพง หรือถ้าต้องการปลูกเพื่อการค้าก็น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ