สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

โครงการวิจัยการกลั่นน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรไทย: ความสำคัญและผลกระทบที่ดีต่อสังคมและเศรษฐกิจ

ปัจจุบัน ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมากขึ้น ประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของพืชสมุนไพรนานาชนิด ซึ่งมีคุณค่าทางการแพทย์แผนโบราณ และยังเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันหอมระเหยที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ความหลากหลายทางชีวภาพได้หล่อหลอมให้เกิดคลังสมุนไพรที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบของน้ำมันหอมระเหย สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล

แม้ว่าประเทศไทยจะมีความหลากหลายของสมุนไพรมากถึง 11,600 ชนิด แต่การนำมาใช้ประโยชน์ยังคงจำกัดอยู่เพียง 160 ชนิดเท่านั้น สะท้อนถึงการขาดการวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจังเพื่อต่อยอดศักยภาพของสมุนไพรไทย นอกจากนี้ ปัญหาการพึ่งพาเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม รวมถึงการขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในประเทศ ปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้ประเทศไทยไม่สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างเต็มศักยภาพ

เครดิตภาพ: Aromatherapie โดย Alek866215 | Wikimedia Commons | CC BY-SA 4.0

สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) จึงได้สนับสนุนทุนวิจัยในโครงการวิจัย “การสกัดน้ำมันหอมระเหยจาก ขมิ้นชัน กระชาย และไพล ด้วยเทคนิคการกลั่นซ้ำเพื่อพัฒนาต่อยอดสมุนไพรไทยสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยา และเครื่องสำอาง” นำโดย ผศ.ดร.นำพน พิพัฒน์ไพบูลย์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขต สกลนคร มุ่งเน้นการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากขมิ้นชัน กระชาย และไพล ด้วยเทคนิคการกลั่นซ้ำ มาผลิตเป็นน้ำมันหอมระเหยคุณภาพสูง เพื่อพัฒนาต่อยอดสมุนไพรไทยสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยา และเครื่องสำอาง เป็นการวิจัยที่ตอบโจทย์การพัฒนาอุตสาหกรรม

การวิจัยนี้ได้สร้างประโยชน์อย่างมหาศาลต่อหลายภาคส่วนในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาอุตสาหกรรม เกษตรกรได้รับโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มจากการปลูกสมุนไพร ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงและเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงิน ในขณะที่ผู้ประกอบการสามารถนำน้ำมันหอมระเหยคุณภาพสูงไปพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้กับวงการวิชาการและการวิจัย ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยในอนาคต

ผลสำเร็จของงานวิจัยนี้ยังช่วยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยการเพิ่มผลผลิตจากวัตถุดิบเดิมด้วยเทคนิคการกลั่นซ้ำ ช่วยลดต้นทุนการผลิต และยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรโดยรวม นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมอาหารเสริม ยา และเครื่องสำอาง ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าและความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะยาว การวิจัยนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) ของประเทศไทยอย่างยั่งยืน

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook