สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ยกระดับสมุนไพรไทย: การแก้ปัญหาผื่นภูมิแพ้ผิวหนังด้วยยาทิพย์ตะโจ

โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dermatitis หรือ Eczema เป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก โรคนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามปัจจัยที่ก่อให้เกิด ได้แก่ ปัจจัยภายในที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมและประวัติครอบครัว และปัจจัยภายนอกที่เกิดจากการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ อาการของโรคมีความหลากหลายตั้งแต่ระยะเฉียบพลันจนถึงเรื้อรัง โดยแต่ละระยะมีลักษณะอาการที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ผื่นแดงคันไปจนถึงผิวหนังหนาและมีร่องชัดเจน ความรุนแรงของโรคส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย และยังส่งผลต่อสุขภาพจิต ความสัมพันธ์ทางสังคม การศึกษา และการทำงานของผู้ป่วยอีกด้วย ข้อมูลทางสถิติชี้ให้เห็นว่าโรคนี้พบได้บ่อยในกลุ่มผู้ป่วยโรคผิวหนัง โดยมีอัตราการเกิดสูงถึงร้อยละ 70-90 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาที่มีประสิทธิภาพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น

การรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังในปัจจุบันมีหลากหลายวิธี แต่ละวิธีมีทั้งข้อดีและข้อจำกัด การใช้ยาทาเพิ่มความชุ่มชื้น ยาทาสเตียรอยด์ ยากดภูมิคุ้มกัน และการรักษาด้วยแสงอัลตราไวโอเลต ล้วนเป็นทางเลือกที่แพทย์นำมาใช้ในการรักษา อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญคือยังไม่มีวิธีการรักษาใดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและยังมีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูง ผลข้างเคียงในระยะยาว หรือการเข้าถึงการรักษาที่ยากลำบาก ดังนั้น การศึกษาวิจัยทางเลือกใหม่ๆ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาต่อยอด เช่น กรณีของยาทิพย์ตะโจ ซึ่งเป็นตำรับยาสมุนไพรโบราณที่มีการใช้ในชุมชนมาอย่างยาวนาน แต่ยังขาดการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัย

การศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยาทิพย์ตะโจในการรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังที่โรงพยาบาลสิรินธร จังหวัดขอนแก่น แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของยาสมุนไพรโบราณนี้ อย่างไรก็ตาม การศึกษาดังกล่าวยังมีข้อจำกัดหลายประการที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์ เช่น การไม่มีการสุ่มตัวอย่าง และการขาดการเปรียบเทียบกับยามาตรฐาน นอกจากนี้ การศึกษาดังกล่าวยังไม่มีการจัดทำมาตรฐานของตำรับและยังไม่มีการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีและฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของตำรับที่จะสนับสนุนผลการศึกษาทางคลินิก

ดังนั้น สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร หรือ สวก. จึงได้สนับสนุนทุนวิจัยโครงการศึกษาการควบคุมคุณภาพและประสิทธิผลของน้ำมันสมุนไพรทิพย์ตะโจในการรักษาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โดยการวิจัยนี้มีเป้าหมายในการศึกษาประสิทธิผลของยาด้วยวิธีการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการประเมินประสิทธิผลของยา นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาฤทธิ์ต้านการอักเสบ การจัดทำมาตรฐานของสมุนไพรในตำรับ และการควบคุมคุณภาพการผลิต

โครงการวิจัยนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่มาตรฐานสากล โดยมุ่งหวังที่จะได้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการขึ้นทะเบียนตำรับยากับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย ซึ่งจะนำไปสู่การยอมรับทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ การศึกษานี้จึงเป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาดั้งเดิมกับกระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เพื่อพัฒนาทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ป่วย

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook