สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

นวัตกรรมบริหารจัดการน้ำและเกษตรยั่งยืน

การจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง-ชี-มูล เป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผล กระทบต่อความมั่นคงทางอาหารและเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่นี้มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมและภัยแล้งที่รุนแรงและบ่อยครั้งขึ้น ในขณะที่พื้นที่เกษตรกรรมส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพาน้ำฝนเป็นหลัก เนื่องจากมีระบบชลประทานครอบคลุมเพียงร้อยละ 12.3 ของพื้นที่เกษตรทั้งหมด

สถานการณ์นี้ส่งผลให้เกษตรกรต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในด้านปริมาณน้ำที่จะได้รับจากการจัดสรรน้ำ ซึ่งกระทบโดยตรงต่อผลผลิตทางการเกษตรและรายได้ของเกษตรกร จากการศึกษาวิจัยโดย
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามและเครือข่ายพันธมิตร ได้เผยให้เห็นถึงปัญหาสำคัญในการจัดการน้ำ โดยเฉพาะในลุ่มน้ำชีที่มีค่าดัชนีความยั่งยืนอยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง อันเนื่องมาจากการขาดระบบการจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพและการมีส่วนร่วมของชุมชนที่ยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ การจัดการน้ำเพื่อการเกษตรนอกเขตชลประทานยังคงเป็นไปอย่างแยกส่วนและขาดเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวางแผน รวมถึงการขาดการจัดลำดับความสำคัญของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง ทีมวิจัยได้พัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เพื่อการพยากรณ์ภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำสำคัญ ซึ่งช่วยในการคาดการณ์และเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ และยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนและจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารและเศรษฐกิจของภูมิภาคในระยะยาว

โครงการ “การบูรณาการระบบบริหารจัดการทรัพยากรดิน น้ำ อากาศ เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในพื้นที่การเกษตรภายใต้ความผันแปรและเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศเพื่อสนับสนุนการเกษตรสมัยใหม่อย่างยั่งยืน กรณีศึกษา จังหวัดมหาสารคาม” ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) โดยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรดิน น้ำ และอากาศ เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทีมวิจัยได้แบ่งการทำงานออกเป็น 4 โครงการย่อยที่มีความเชื่อมโยงกัน ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาระบบสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำชุมชน การสร้างระบบแดชบอร์ดสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อติดตามพื้นที่เกษตรที่ประสบภัย การพัฒนาระบบติดตามและเฝ้าระวังภัยพิบัติด้านการเกษตรโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ ไปจนถึงการวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ของการลงทุนในโครงการ

การทำงานอย่างบูรณาการนี้จะช่วยให้ชุมชนเข้าถึงข้อมูลที่ทันสมัยและแม่นยำ และส่งเสริมการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในท้องถิ่น อันนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความรู้และการจัดการทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ผลงานวิจัยนี้มีศักยภาพที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร เพิ่มความมั่นคงทางอาหารและรายได้ และส่งเสริมการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนในภูมิภาค โดยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์
ใช้ร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ความมุ่งมั่นของทีมวิจัยในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนนี้ได้สร้างองค์ความรู้ใหม่ และเป็นแบบอย่างของการวิจัยเชิงปฏิบัติการที่สามารถนำไปปรับใช้ในพื้นที่อื่นๆ ที่เผชิญปัญหาคล้ายกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศไทยในระยะยาว

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook