บัวบกเป็นพืชสมุนไพรที่มีความสำคัญทางการแพทย์และเศรษฐกิจ ซึ่งพบได้ทั่วไปในภูมิภาคเขตร้อนและเขตอบอุ่น โดยมีการนำส่วนเหนือดินมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง ด้วยคุณสมบัติพิเศษจากสารสำคัญกลุ่มไตรเทอร์ปิน ทำให้บัวบกมีสรรพคุณที่โดดเด่นหลายประการ ได้รับความนิยมอย่างสูงในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ทำให้บัวบกกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การจำหน่ายผลผลิตสด ไปจนถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยารักษาโรค และเครื่องสำอาง อย่างไรก็ตาม การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากบัวบกให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่ดี จำเป็นต้องอาศัยการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ
เครดิตภาพ: Centella asiatica or gotu kola โดย Ushani Thennakoon | Wikimedia Commons | CC BY-SA 4.0
การผลิตบัวบกในประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ ทั้งในด้านปริมาณผลผลิตที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด และปัญหาคุณภาพวัตถุดิบที่ยังไม่ได้มาตรฐาน จากข้อมูลทางการตลาดในปี พ.ศ. 2560 แสดงให้เห็นว่าการผลิตบัวบกภายในประเทศสามารถตอบสนองความต้องการได้เพียงร้อยละ 55 เท่านั้นส่งผลให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศถึงร้อยละ 45 นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเพียงร้อยละ 35 ของผลผลิตทั้งหมดที่มีคุณภาพเหมาะสมสำหรับการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมสารสกัด ปัญหาสำคัญที่พบคือการปนเปื้อนของโลหะหนักในผลผลิตบัวบก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการใช้สารเคมีทางการเกษตรและปุ๋ยอินทรีย์บางชนิดที่ไม่ได้มาตรฐาน มีการปนเปื้อนของตะกั่วและสังกะสีเกินค่ามาตรฐาน รวมถึงการตรวจพบแคดเมียมในระดับที่น่าเป็นห่วง สถานการณ์นี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ผ่านการพัฒนาระบบการผลิตที่ได้มาตรฐาน การควบคุมการใช้ปัจจัยการผลิต และการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อยกระดับคุณภาพผลผลิตบัวบกให้ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมและความปลอดภัยของผู้บริโภค
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) ตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงสนับสนุนทุนวิจัยในโครงการ “การพัฒนาผลิตภัณฑ์บำบัดโลหะหนักด้วยเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา สำหรับการผลิตสมุนไพรบัวบกคุณภาพสูง” โดยทีมวิจัยได้ศึกษาการใช้เชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีศักยภาพในการลดการดูดซับโลหะหนักอันตราย เช่น ตะกั่ว แคดเมียม และสารหนู งานวิจัยนี้เป็นการนำเทคโนโลยีชีวภาพมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา โดยได้ดำเนินการทดสอบในสภาพแปลงทดลองที่จำลองสภาพการเพาะปลูกจริง เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับบำบัดการปนเปื้อนโลหะหนักที่มีประสิทธิภาพและสามารถนำไปใช้ได้จริงในระบบการเพาะปลูกบัวบกเชิงพาณิชย์การพัฒนาระบบการผลิตบัวบกที่มีคุณภาพและปลอดภัยจะส่งผลดีต่อเกษตรกรในด้านการเพิ่มมูลค่าผลผลิต เนื่องจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัยจะสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรมการแปรรูปบัวบกเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพและเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดโลก การพัฒนาคุณภาพวัตถุดิบตั้งแต่ต้นน้ำจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยทั้งระบบ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน