ต้นบุนนาค เป็นต้นไม้ประจำเมืองชาละวันหรือจังหวัดพิจิตรนั่นเองครับ ถือเป็นไม้มงคล ที่คนไทยนิยมนำมาเป็นไม้ประดับสวน เพราะมีร่มเงาที่สร้างความร่มรื่นได้เป็นอย่างดี ดอกงดงาม มีกลิ่นหอม และยังจัดเป็นพืชสมุนไพรอีกด้วย คนโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกบุนนาคไว้เป็นไม้ประจำบ้าน จะช่วยทำให้เป็นผู้มีความประเสริฐ มีบุญ และคำว่านาคยังหมายถึง พญานาค ซึ่งบ่งบอกถึงความมีอำนาจ และ ช่วยคุ้มครอง ป้องกันภัยอันตรายจากสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ มิให้มากล้ำกลายได้ เพราะใบของบุนนาคมีสรรพคุณรักษาพิษต่าง ๆ ได้
ต้นบุนนาคเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ไม่ผลัดใบ ชอบแสงแดดจัดๆ ชอบดินชุ่มชื้น แต่ไม่ชอบน้ำท่วมขัง มีความสูง 15-30 เมตร เรือนยอดเป็นทรงพุ่มทึบ รูปสามเหลี่ยมคล้ายเจดีย์ กิ่งก้านเรียวห้อยลงเป็นไม้เนื้อแข็ง เปลือกต้นสีน้ำตาล มีรอยแตก เปลือกชั้นในมีน้ำยางสีเหลืองใส เนื้อไม้สีแดงคล้ำเป็นมัน ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียวเข้ม ใต้ใบเป็นสีขาวนวล รูปใบเรียวยาว ใบอ่อนมีสีแดงอมชมพู มีดอกออกตามซอกใบ กลีบดอกสีขาวนวล มี 5 กลีบ มีกลิ่นหอมเย็นอ่อนๆ ที่กลางดอกจะมีเกสรตัวผู้สีเหลืองเป็นฝอยสั้นๆ ออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงมีนาคมของทุกปี เมื่อดอกร่วงก็จะกลายเป็นผลลูกกลม มีเปลือกแข็ง โดยทุกส่วน ทั้งใบ ดอก เมล็ด เปลือกลำต้น และ ราก ล้วนมีสรรพคุณเป็นสมุนไพร ตามตำรับยาโบราณ
ตามเอกสารและสื่อต่างๆ ต้นบุนนาค มีชื่อท้องถิ่นหลายชื่อ เช่น สารภีดอย นาคบุตร และ นากบุดซึ่งในอดีตมีการจำแนกว่า บุนนาคและนากบุด เป็นไม้พันธุ์เดียวกัน แต่ต่อมาในเอกสารของหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ ปี พ.ศ.2557 ได้มีการแบ่งแยก ต้นนากบุด ออกเป็นต้นไม้อีกชนิดหนึ่ง แยกจากกันแต่อยู่ในสกุลเดียวกัน มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ซึ่งคนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยมีใครรับทราบข้อมูลนี้มากนัก จนมาถึง ปี พ.ศ.2561 ที่รัฐบาลออกกฎหมาย ประกาศรายชื่อให้ พันธุ์ไม้ 58 ชนิด สามารถใช้เป็นสินทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันเงินกู้จากธนาคารได้ ตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด ซึ่งพบว่ารายชื่อทั้ง 58 พันธุ์ไม้นี้ มีต้นนากบุดอยู่ในลำดับที่ 36 แต่ไม่มีชื่อของ ต้นบุนนาค อยู่ด้วย ทั้งๆ ที่เป็นต้นไม้ที่คล้ายคลึงกันมาก แตกต่างกันที่ต้นนากบุดมีสีเกสรดอกสีขาวและมีเนื้อไม้ออกสีขาว ซึ่งสาเหตุน่าจะเป็นเพราะต้องการอนุรักษ์พันธุ์ของต้นนากบุด เอาไว้เพื่อความหลากหลาย เพราะทุกวันนี้จะหาต้นนากบุดได้ยากเต็มที ต่างจากต้นบุนนาคซึ่งมีชื่อว่าเป็นไม้มงคล และ ยังเป็นไม้ประดับราคาแพงที่นิยมปลูกกันมากอยู่แล้ว ตามสถานที่หรือบ้านเรือนต่างๆ และยังมีการเพาะต้นกล้าพันธุ์บุนนาคขายกันอยู่เป็นจำนวนมาก ถือว่าวันนี้เรามาชวนคุยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับต้นบุนนาคกันนะครับ