เครดิตภาพ: Oil palm plantation in Cigudeg-03 โดย Achmad Rabin Taim | Wikimedia Commons | CC BY 2.0
สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th
อย่างไรก็ตาม การนำน้ำมันพืชมาใช้เป็นสารหล่อลื่นโดยตรงยังมีข้อจำกัด จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงคุณภาพก่อนนำมาใช้ ทั้งการใช้สารเติมแต่งและการปรับปรุงคุณสมบัติด้วยกระบวนการทางเคมี โดยเฉพาะการสังเคราะห์เอสโทไลด์และโพลิออลเอสเตอร์ ซึ่งให้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นและเหมาะสมกับการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม การพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน เสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับเกษตรกร และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย นอกจากนี้ ความสำเร็จในการพัฒนาน้ำมันหล่อลื่นชีวภาพยังสอดคล้องกับแนวโน้มโลกในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในตลาดโลก และเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงจากวัตถุดิบทางการเกษตรอื่นๆ
ในอนาคต
โครงการวิจัย “การเพิ่มมูลค่าของกรดไขมันปาล์มเป็นโอลิโอเคมีเอสโทไลด์เอสเตอร์ เพื่อใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานชีวภาพ” ที่ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) เป็นนวัตกรรมที่มีศักยภาพสูงในการปฏิวัติอุตสาหกรรมการหล่อลื่นและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย กรดไขมันปาล์มมีข้อได้เปรียบหลายประการเมื่อเทียบกับน้ำมันพืชชนิดอื่น ทั้งในแง่ของต้นทุนการผลิตที่ต่ำ ความยืดหยุ่นในการปรับปรุงคุณสมบัติ และการไม่กระทบต่อตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภค ผลการทดลองเบื้องต้นแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติที่โดดเด่นของเอสโทไลด์ที่สังเคราะห์ได้ ทั้งในด้านเสถียรภาพ จุดไหลเท และดัชนีความหนืด ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพในการใช้งานที่หลากหลายในภาคอุตสาหกรรม
โครงการนี้มุ่งพัฒนากระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ รวมถึงศึกษาคุณสมบัติ การสร้างมาตรฐานการวิเคราะห์ และประเมินความเป็นไปได้ทางเทคนิคและต้นทุน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ในอนาคต การวิจัยนี้ยังมุ่งพัฒนาสูตรน้ำมันหล่อลื่นที่เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น อุณหภูมิสูง แรงกดสูง หรือสภาวะที่ต้องการความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหลากหลายและความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ในตลาดโลก ผลกระทบของโครงการวิจัยนี้ส่งผลดีต่อเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในการสร้างตลาดใหม่และเสถียรภาพด้านราคา รวมถึงประชาชนทั่วไปที่จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตรยังช่วยลดการพึ่งพาการส่งออกวัตถุดิบราคาถูก และส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องภายในประเทศ
ความสำเร็จของงานวิจัยนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันของไทย ลดการพึ่งพาการนำเข้า และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะนำไปสู่การเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของประเทศในระยะยาว นอกจากนี้ ความสำเร็จของโครงการนี้ยังอาจเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวม