มะระขี้นก พืชที่เป็นหนึ่งในพืชที่ขมสุดๆ มีผลรีๆ ยาวๆ มีตะปุ่มตำป่ำ และมีขนนิดหน่อย ตอนดิบจะมีสีเขียวเข้ม และพอแก่ก็จะเริ่มสีจางลงเป็นเหลืองส้มอมแดง เรามักจะได้ยินเรื่องฤทธิ์ทางยาของสมุนไพรตัวนี้มาหลากหลายด้าน ที่สำคัญคือสามารถนำมาใช้ทางการแพทย์ได้ เช่น ลดไข้ ลดการอักเสบ ช่วยเจริญอาหาร กำจัดอนุมูลอิสระ และลดระดับน้ำตาลในเลือด ผลดิบของมะระขี้นกมีฤทธิ์น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะการลดระดับน้ำตาล มะระขี้นกมีรสชาติขมทานยาก ซึ่งในปัจจุบันมีการนำส่วนต่าง ๆ ของมะระขี้นกมาแปรรูป ทั้งในรูปการอัดเม็ด การบรรจุแคปซูล เป็นเครื่องดื่ม และชาสมุนไพร ส่งผลให้ด้านการตลาดของมะระขี้นกขยายกว้างมากขึ้น แต่ยังมีผลผลิตไม่เพียงพอต่อการแปรรูป ผมเลยมาชวนคุยเรื่องโอกาสการปลูกมะระขี้นกเพื่อขายกันครับ
การปลูกมะระขี้นกนั้น ควรปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดทั่วถึง ไม่เกี่ยงว่าเป็นดินแบบไหนครับ ขอให้มีความชุ่มชื้น ดินไม่เปรี้ยวไม่เค็มก็เติบโตได้แล้วครับ กาเตรียมดินก็ไถดะลึกซัก 1 ฟุต แล้วตากดินฆ่าเชื้อไว้ซัก 1 สัปดาห์ กำจัดหญ้าวัชพืชแล้วแตกดินให้ย่อยตัวและซุยมากขึ้น ทำแปลงยกร่องขึ้น 1 ฟุต เว้นทางเดินระหว่างแปลงเพื่อจะได้เข้าไปดูแลให้น้ำ ให้ปุ๋ย กำจัดศัตรูพืชได้ง่าย เติมปูนขาวกับปุ๋ยคอกประมาณไร่ละ 2 ตันก็เพียงพอแล้วครับ
มะระขี้นกที่นิยมปลูกกันมี 2 พันธุ์ คือ พันธุ์ไซเบอร์ ทรงรียาว และพันธุ์มดดำ ที่ทรงจะสั้นกว่าพันธุ์ไซเบอร์เล็กน้อย ทั้ง 2 พันธุ์นี้ทนต่อโรคและแมลง ให้ผลผลิตดีมาก เราต้องเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ดี แข็งแรง มีอัตราการให้ผลผลิตสูง แล้วนำเมล็ดมาเฉือนหัวออกแล้วแช่น้ำให้งอกรากได้ง่าย แล้วนำไปเพาะในถาด 3 สัปดาห์ สังเกตได้จากต้นกล้าจะเริ่มผลิใบแตกออกมาบ้างแล้ว ก่อนจะย้ายไปลงแปลงที่เราเตรียมไว้แล้ว โดยทั่วไปเราจะใช้เมล็ดประมาณ 3 ลิตรต่อไร่
เมื่อย้ายต้นกล้ามาลงแปลงปลูก ให้เลือกเฉพาะต้นที่แข็งแรงเท่านั้น เว้นระยะห่างระหว่างต้นกล้า 2 ฟุต เผื่อเติบโต เพราะมะระขี้นกเป็นไม้เลื้อย เราต้องเผื่อที่ทำค้างให้เลื้อยไว้ด้วย แล้วเมื่อลงต้นกล้าเสร็จให้นำฟางมาคลุมเพื่อรักษาความชุ่มชื้นในดิน และทำการให้น้ำทันที แต่อย่าให้เยอะจนระบายไม่ทัน และจะต้องให้น้ำอย่าสม่ำเสมอ ยิ่งช่วงแทงดอกต้องห้ามขาดน้ำเลย ใช้เวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์เถาก็จะเลื้อยไปตามเสาและค้างที่เราทำไว้ พอผลเริ่มออกเราก็ควรห่อพลาสติกกันแมลงกันครับ รอจนต้นมะระขี้นกอายุราว 3 สัปดาห์ก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวออกสู่ตลาดกันได้แล้วครับ ลงทุนปลูก 1 รุ่น สามารถเก็บผลผลิตได้สูงสุดถึง 20 ครั้งเลยครับ เพื่อนๆ เกษตรกรบางท่านก็นำมาแปรรูปต่อ ทำราคาได้อีกนะครับ ทั้งชา ทั้งอบแห้ง เลยครับ