สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

การพัฒนาสารสกัดจากเปลือกต้นรักชั้นไดคลอโรมีเทน: การเสริมสร้างศักยภาพในการรักษาและป้องกันมะเร็งตับ

ต้นรัก Calotropis gigantea เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ Apocynaceae ที่สามารถพบได้ทั่วไปทุกภาคในประเทศไทย หลายประเทศของทวีปเอเชีย และหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ในตำรายาไทยใช้ยางขาวจากต้น เป็นยาถ่ายอย่างแรง ขับพยาธิ แก้กลาก เกลื้อน แก้ปวดฟัน และปวดหู ในทางการแพทย์พื้นบ้านของจีนและอินเดีย มีการนำเปลือกต้นมาใช้ขับน้ำเหลืองเสีย ทำให้อาเจียน ส่วนดอกสามารถช่วยย่อย ทำให้เจริญอาหาร แก้ไข้ แก้ไอและหอบหืดได้ ปัจจุบันมีการศึกษาหลายฉบับที่ชี้ให้เห็นถึงฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่น่าสนใจของสารสกัดหรือสารทุติยภูมิที่สกัดได้จากส่วนต่างๆ เช่น ฤทธิ์ในการรักษาบาดแผล ฤทธิ์ในการฤทธิ์ต้านการอักเสบ ฤทธิ์ต้านไวรัส ฤทธิ์ต้านจุลชีพ ฤทธิ์ต้านการทาลายตับและหัวใจ ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง และฤทธิ์ในการยับยั้งการเติบโตของเซลมะเร็ง

ต้นรักมีสารทุติยภูมิที่เรียกว่า “คาร์ดิแอคไกลโคไซด์” ปริมาณสูง เช่น calactin, calotoxin และ uscharin นอกจากนี้ยังมีสารกลุ่มอื่นๆ อย่าง alkaloid, flavonoids, tannins saponins, steroids waw triterpenoids คาร์ดิแอคไกลโคไซด์กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในการวิจัยเพื่อรักษาโรคมะเร็ง ตัวอย่างเช่น ดิจอกซิน ซึ่งเดิมใช้รักษาโรคหัวใจล้มเหลว กำลังถูกศึกษาในสหรัฐอเมริกาเพื่อรักษามะเร็งต่อมลูกหมากที่กลับมาเป็นใหม่ นอกจากนี้ สาร UNBS1450 ที่ได้จากการปรับโครงสร้างคาร์ดิแอคไกลโคไซด์จากเปลือกรากต้นดอกรักหลวง กำลังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยในยุโรปเพื่อรักษามะเร็งชนิด advanced solid tumors และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง งานวิจัยหลายฉบับรายงานว่าสารกลุ่มนี้มีคุณสมบัติคือไม่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ปกติ ในขณะที่สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สารสกัดจากเปลือกต้นรักชั้นไดคลอโรมีเทน (CGDCM) เป็นอีกหนึ่งสารที่มีศักยภาพสูงในการรักษาโรคมะเร็งตับ การวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า CGDCM สามารถใช้เดี่ยวหรือร่วมกับยาเคมีบำบัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง ข้อดีที่สำคัญของ CGDCM คือสามารถช่วยลดความเข้มข้นของยาเคมีบำบัดที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งอาจนำไปสู่การลดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์จากการรักษา

โครงการวิจัยเกี่ยวกับสารสกัดจากเปลือกต้นรักในปีแรก มีการยื่นขอจดอนุสิทธิบัตรสำหรับกรรมวิธีในการผลิตสารสกัดจากเปลือกต้นรัก ซึ่งพบว่ามีผลในการรักษามะเร็งตับ อย่างไรก็ตาม ยังพบปัญหาเรื่องปริมาณผลผลิตที่น้อยและการควบคุมคุณภาพของสารสกัด จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาต่อไป เพื่อให้สามารถระบุปริมาณสารออกฤทธิ์ที่เป็น biomarker ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยของการสกัด ผลต่อเซลล์ปกติ และศักยภาพในการป้องกันมะเร็งตับ

ในปีที่สอง สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) ได้สนับสนุนทุนวิจัยโครงการ “ผลของสารสกัดที่ได้จากเปลือกต้นรักเมื่อใช้ชนิดเดียวหรือใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัดมาตรฐานต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งตับในหนูทดลองที่เหนี่ยวนำให้เกิดมะเร็งตับ (ปีที่ 2)” โดยมี ดร.สุภาวดี พาหิระ จากมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นหัวหน้าโครงการ โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาสมุนไพรไทยให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพในการรักษาโรค

วัตถุประสงค์หลักของโครงการในปีที่สองประกอบด้วย การเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดสารจากเปลือกต้นรัก การพัฒนาวิธีควบคุมคุณภาพของสารสกัด การศึกษาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและผลต่อเอนไซม์ UGT การทดสอบความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งตับ การศึกษาความเป็นพิษต่อเซลล์ปกติ และการทดลองเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสารสกัดกับ metformin ในการป้องกันการเกิดมะเร็งตับในหนูทดลอง

ผลการวิจัยนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพของประเทศในด้านการใช้สมุนไพรเพื่อรักษาโรคมะเร็ง อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและยาที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและรักษาโรค ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและผู้ป่วยในอนาคต การศึกษานี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการวิจัยและพัฒนาสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook