สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ต้นอ้อ สมุนไพรและพืชพลังงานโตไว

ต้นอ้อ  หรือที่ในภาคกลางจะเรียกว่า ต้นดอกหญ้าหรือต้นดอกเลา เป็นต้นไม้ล้มลุก เติบโตเป็นกอสูงประมาณ 3-4 เมตร ชอบขึ้นในที่ชื้นหรือแอ่งน้ำขัง ทั้งน้ำจืดและน้ำกร่อยก็สามารถเติบโตได้ดีทั้งสิ้น ต้นอ้อสามารถนำมาใช้เป็นสมุนไพรเพื่อขับของเสียในร่างกายทั้งขับระดูและขับปัสสาวะ แต่ประโยชน์ที่คนทั่วไปนิยมนำมาใช้มากที่สุดคือนำก้านดอกของต้นอ้อมาทำเป็นไม้กวาดนั่นเองครับ

ต้นอ้อ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Common Reed สามารถนำใบไปใช้ในการรักษาโรคหลอดลมอักเสบส่วนดอกอ้อนำไปต้มใช้ในการรักษาอาหารเป็นพิษ ลำต้นใช้เป็นยาแก้พิษ ยาแก้ไข้ ยาลดไข้  รากใช้ในการรักษาอาการท้องร่วง ลดไข้ระงับอาการอาเจียน บรรเทาอาการไอมีเสมหะ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะและอาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะพิษจากอาหารทะเล สามารถนำเปลือกของต้นมาใช้ในการรักษากลิ่นปากและอาการปวดฟัน

การนำไปใช้ประโยชน์ในแต่ละส่วนของต้นอ้อจะแตกต่างกันไป เช่น ส่วนของรากมีน้ำตาลสูงถึง 5% นำมาใช้รับประทานได้ทั้งดิบและสุก รสชาติจะดีหากรากยังไม่แก่จัด ส่วนใหญ่นิยมนำมาเคี่ยวผสมกับซุปต่างๆ ทานเป็นอาหาร และในประเทศรัสเซียนิยมนำรากต้นอ้ออ่อนมารับประทานแทนหน่อไม้ ส่วนในประเทศญี่ปุ่นจะนำใบอ่อนทั้งสดและตากแห้งมาผสมกับธัญพืชต่างๆ แล้วต้มเป็นโจ๊กหรือเกี๊ยวร้อน

นอกจากนี้ ต้นอ้อยังจัดว่าเป็นพืชพลังงาน เพราะสามารถสกัดให้เกิดชีวมวลจำนวนมากเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงและปุ๋ยหมัก และยังสามารถใช้ต้นอ้อในการเตรียมแอลกอฮอล์ผสมยีสต์และกรดแลคติกได้ด้วย ส่วนของลำต้นสามารถนำมาใช้ผลิตเป็นกระดาษ เบาะนั่ง หลังคา เพราะมีความทนทานนับร้อยปี บางประเทศใช้ทำเป็นผนังบ้านคล้ายไม้ฟากของบ้านเรา ยิ่งไปกว่านั้นในยุคนี้ที่เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อม กิ่งเล็กๆ ของต้นอ้อถูกนำมาผลิตเป็นหลอดดูดเครื่องดื่มเพื่อลดการใช้พลาสติกไปในตัวได้อีกด้วย

ในเชิงการเกษตรนั้น เราสามารปลูกต้นอ้อเพื่อรักษาหน้าดินบริเวณตลิ่งริมน้ำไม่ให้ไหลลงน้ำ ป้องกันน้ำตื้นเขิน จนไม่สามารถรองรับน้ำธรรมชาติที่จะไหลลงสู่แหล่งน้ำได้ วิธีการขยายพันธุ์ต้นอ้อนั้น จะใช้วิธีหว่านเมล็ดลงบนดินชุ่มชื้นที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน ต้นอ้อก็จะเติบโตได้เองตามธรรมชาติแล้วครับ พอต้นกล้าแข็งแรงก็นำไปปลูกต่อบริเวณตลิ่ง รากก็จะงอกไหลแพร่กระจายพันธุ์ไปทั่ว เป็นการอนุรักษ์หน้าดินและแหล่งน้ำที่ดีทีเดียวครับ แต่หากจะปลูกเพื่อทำเป็นวัตถุดิบหรือชีวมวลในการผลิตพลังงานทดแทนอาจจะต้องวางแผนการใหญ่ขึ้น เพราะต้องใช้พื้นที่น้ำขังในพื้นที่ที่กว้างมากครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook