สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

การปลูกไม้เศรษฐกิจสร้างรายได้ดี

การปลูกไม้เศรษฐกิจในบ้านเราสามารถทำได้ง่าย เพราะมีการสนับสนุนจากทางภาครัฐซึ่งเพื่อนๆ เกษตรกรสามารถติดต่อและรับต้นพันธุ์กล้าไม้เศรษฐกิจที่ต้องการจะปลูกได้ที่สำนักงาป่าไม้ในท้องที่ที่อาศัยอยู่ การปลูกไม้เศรษฐกิจดังกล่าวสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่เพาะปลูกเป็นอย่างมาก ทั้งยังทำให้สามารถนำไม้ไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพราะเป็นที่ต้องการในตลาดและอุตสาหกรรมไม่น้อยไปกว่าไม้ชนิดอื่น ทำให้การค้าไม้เศรษฐกิจสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เพาะปลูกได้อย่างงามครับ

ไม้เศรษฐกิจที่นิยมปลูกในบ้านเรานั้นมีมากมายหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ หรือ ไม้ไผ่ต่างๆ และสามารถจำแนกไม้เศรษฐกิจตามการนำไปแปรรูป หรือ ใช้งานได้อีกด้วยครับ โดยประเภทของไม้เศรษฐกิจแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ประเภทแรก คือ ไม้เศรษฐกิจที่ปลูกขึ้นเพื่อนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ หรือ ทำเป็นไม้แผ่น นิยมใช้ไม้เนื้อแข็ง ลายสวยงาม ยิ่งมีลายสวยยิ่งให้ราคาสูง เช่น ไม้สัก ไม้พะยูง พะยอม มะฮอกกะนี เป็นต้น ประเภทต่อมาคือ ประเภทที่นำเนื้อไม้ไปใช้ผลิตเป็นกระดาษ หรือ การใช้เนื้อเยื่อของไม้ในการแปรรูปเป็นกระดาษ เช่น ต้นยูคาลิปตัส ไม้ไผ่ กระถิ่นเทพา สะเดา ส่วนอีกประเภทหนึ่งคือ ไม้เศรษฐกิจที่นำมาสกัดเอายาง หรือน้ำจากต้น ไปผลิตเป็นข้าวของเครื่องใช้ หรือ น้ำมันหอมระเหย เช่นยางพารา กฤษณา เป็นต้นครับ หากเพื่อนๆเกษตรกรสนใจไม้เศรษฐกิจชนิดใดก็สามารถไปหามาลองปลูกกันได้นะครับ บอกเลยว่าวิธีการปลูกและการดูแลไม่ยากครับ

การปลูกไม้เศรษฐกิจนิยมใช้วิธีการเพาะเมล็ดมากที่สุด เพราะสามารถลดต้นทุนในการเพาะปลูก ทั้งยังให้ผลผลิตได้จำนวนมากอีกด้วย วิธีการเพาะเมล็ด ให้เลือกเมล็ดจากต้นพันธุ์ที่แข็งแรง หรือ จะซื้อเมล็ดมาเพาะปลูกก็ได้ จากนั้นให้ทำการพรวนดินตากแดดไว้ โดยดินที่ใช้จะเป็นดินร่วน หรือ ดินร่วนปนทรายก็ได้ครับ เลือกให้เหมาะกับไม้ที่เราต้องการจะปลูก จากนั้นนำดินมาผสมกับปุ๋ยคอกและแกลบในอัตราส่วน 1:2:2 และนำมาใส่ลงในกระบะเพาะเมล็ด หรือ ถุงเพาะเมล็ดก็ได้ วิธีดูแลก็เพียงแต่หมั่นรดน้ำเช้าเย็นและตั้งไว้ในบริเวณที่ไม่โดนแสงแดดโดยตรง เมื่อเมล็ดเริ่มแตกต้นกล้าแล้ว หากปลูกในกระบะทรายให้ย้ายมาปลูกลงในถุงเพาะชำก่อน โดยหากเป็นไม้เศรษฐกิจที่ปลูกไว้ขายแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ หรือ ไม้เนื้อแข็ง ให้ปลูกโดยเว้นระยะห่างระหว่างต้น 4*4 เมตร หรือมากกว่านี้ตามขนาดของต้นที่ปลูก หากเป็นไม้เศรษฐกิจชนิดอื่นให้ปลูกเว้นระยะห่างระหว่างต้น 2*2 เมตรก็พอแล้วล่ะครับ วิธีดูแลเพียงแค่หมั่นรดน้ำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เมื่อต้นไม้เศรษฐกิจมีอายุ 2 ปีขึ้นไปแล้ว งดให้น้ำในช่วงฤดูฝนได้ครับ และควรตัดแต่งต้นไม้สำหรับต้นที่แตกกิ่งก้านเยอะจนเกินไปปีละ 1-2 ครั้ง รวมทั้งใส่ปุ๋ยบำรุงต้นปีละครั้ง รอจนได้ขนาดที่กำลังดีก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ครับ หรือจะเพาะต้นกล้าเพื่อนำไปขายในตลาดต้นไม้ก็นับว่ามีตลาดรองรับไม่น้อยเลยครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook