สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

นกกระจอก ศัตรูพืชตัวฉกาจ ปราบยาก

นกกระจอก ถูกจัดเป็นหนึ่งในศัตรูพืช ที่มักจะเข้ามาก่อกวนสร้างปัญหาทำลายผลผลิตในนาข้าวตั้งแต่เริ่มหว่านข้าวไปจนถึงช่วงข้าวตั้งท้อง ทำให้ผลผลิตไม่มีคุณภาพและได้ปริมาณน้อยลง เพราะนกกระจอกนั้นจะมีพฤติกรรมแก่งแย่งอาหารเพื่อให้อยู่รอดเนื่องจากประชากรนกมีจำนวนมาก และนกสามารถค้นหาและจดจำพื้นที่ที่อุดมไปด้วยอาหารได้ดี โดยเฉพาะบริเวณโล่งแจ้งอย่างนาข้าวที่สามารถโฉบกินจิกอาหารได้ง่าย นอกจากนาข้าวแล้ว แปลงพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ เช่น แปลงพริก แปลงผลไม้ และธัญพืช ก็ยังถูกนกกระจอกจู่โจมจนทำให้ผลผลิตต่างๆ เสียหายไปตามๆ กัน จึงกลายเป็นศัตรูพืชที่เพื่อนๆ เกษตรกรจะต้องหาวิธีการกำจัด และทำให้เกิดต้นทุนในการผลิตขึ้น

นกกระจอกนั้นเป็นนกที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี พบเห็นได้ทั่วไปทั้งในเมืองและชนบท มีประชากรมากกว่านกพันธุ์อื่นๆ ขยายพันธุ์ได้เร็ว แม้ว่านกกระจกนั้นจะถูกแบ่งเป็นนกกระจอกบ้าน นกกระจอกใหญ่ นกกระจอกป่า และนกกระจอกตาล แต่เรากลับเรียกเหมารวมว่านกกระจอกทั้งสิ้น โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับสรีระและลักษณะที่แตกต่างกันของนกกระจอกแต่ละชนิด ทั้งที่มีขนาดลำตัวที่แตกต่างกันอย่างมากก็ตาม

นกกระจอกเป็นนกที่มีหลายขนาดแต่ไม่ใหญ่มาก หากมีลำตัวใหญ่ปีกจะยาวกกว่าชนิดที่ลำตัวเล็ก ปลายปีกแหลม ขนสีน้ำตาลแกมดำหรือเทา มีปากแหลมง่ายต่อการจิกกินพืชผลต่างๆ นกกระจอกที่เราพบกันคุ้นตามักจะเป็นนกกระจอกบ้าน เพราะชอบอยู่ใกล้ชิดกับคน มักทำรังบนต้นไม้ใกล้บ้านเรือนหรือทำใต้หลังคาบ้าน นกชนิดนี้มีลำตัวยาวประมาณ 14 เซนติเมตร ปีกสั้นมน ขนสีดำ กลางหัวไปถึงหลังมีสีน้ำตาลเข้ม โดยรวมแล้วแทบจะแยกความแตกต่างจากนกกระจอกกับนกกระจอกใหญ่ออกจากกันไม่ได้ครับ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะนกกระจอกชนิดไหนก็มีความสามารถในการจิกกัดพืชผลไม่แพ้กัน เพราะชอบบินออกไปจิกอาหารกันเป็นฝูงใหญ่ เมื่อถึงแหล่งอาหารจะแยกย้ายกันกัดกินในวงกว้าง แต่หากเจภัยจะรีบบินกลับกันเป็นฝูงทันที ทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมากและควบคุมได้ยากโดยเฉพาะในการทำการเกษตรแปลงใหญ่ต่างๆ

วิธีการที่เรานิยมใช้เพื่อขับไล่นกกระจอกนั้น คือ การใช้คนไล่สำหรับแปลงเกษตรขนาดเล็ก หรือทำหุ่นไล่กาไล่ในแปลงขนาดใหญ่ บ้างก็ใช้เสียงให้นกกระจอกตกใจแล้วบินหนีไป หรือใช้สิ่งที่เคลื่อนไหวได้เมื่อโดนลมให้นกตกใจ แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีการไหนก็ตาม เมื่อใช้ไปซักระยะ นกกระจอกจะเกิดการเรียนรู้และปรับตัวได้ ทำให้การขับไล่ต่างๆ ไม่เป็นผล ดังนั้นการขับไล่นกกระจอกนั้นจะต้องพยายามสลับวิธีการไปเรื่อยๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดความกลัวอย่างต่อเนื่องครับ ใช้เสียงซักพักก็ต้องเปลี่ยนเป็นของเคลื่อนไหวได้ สลับกันไปมาอย่างนี้จะได้ผลกว่า เพื่อนๆ ท่านไหนมีวิธีการที่ใช้ได้ผลดี นำมาแบ่งปันกันได้นะครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook