การพัฒนาอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย โดยเฉพาะบัวบก เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน แต่การดำเนินการดังกล่าวแบบครบวงจรและเป็นไปตามมาตรฐานสากลยังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ทั้งในด้านการควบคุมคุณภาพวัตถุดิบที่มีความแปรปรวนตามสภาพแวดล้อมและพันธุกรรม ปัญหาการปนเปื้อนสารเคมี และต้นทุนการผลิตที่สูง
ในการศึกษาวิจัยที่ผ่านมา ทีมผู้วิจัยได้ค้นพบว่าการปลูกบัวบกในระบบไฮโดรโพนิกซ์สามารถเพิ่มผลผลิตทั้งในส่วนของน้ำหนักสดและแห้งได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้นถึงหนึ่งเท่าเมื่อเทียบกับการปลูกในดินแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่อคุณภาพของสารสำคัญอย่าง asiaticoside และ madecassoside อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ยังไม่เป็นที่นิยมในเชิงพาณิชย์เนื่องจากต้นทุนที่สูงกว่าระบบปลูกเดิม ดังนั้น ทีมวิจัยจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตบัวบกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการออกแบบระบบปลูกแนวตั้งในโรงเรือนที่มีการควบคุมปัจจัยแวดล้อมอย่างแม่นยำ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มผลผลิตได้ถึง 1.0-1.5 เท่า ระบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ และยังช่วยให้ผลผลิตมีความสม่ำเสมอทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพของสารสำคัญ อีกทั้งยังช่วยลดการใช้แรงงานและแก้ปัญหาคุณภาพวัตถุดิบในอุตสาหกรรม
เครดิตภาพ: Leaves of Centella Asiatica against the sky โดย Rejin Narayanan | Wikimedia Commons | CC BY-SA 4.0
ทีมวิจัยได้รับการสนับสนุนทุนจาก สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก) ในโครงการ “การพัฒนาระบบผลิตบัวบกที่ให้ผลผลิตสารสำคัญต่อพื้นที่สูง ไม่มีการปนเปื้อนของโลหะหนักและสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เพื่อการผลิตบัวบกเกรดพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในการแพทย์และเวชสำอาง” โดยใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลทางพันธุกรรมและลักษณะปรากฏของบัวบกสายพันธุ์ไทยที่ให้ผลผลิตและปริมาณสารสำคัญสูง เหมาะสำหรับการปลูกในระบบไฮโดรโพนิกส์ ทีมวิจัยได้ศึกษาวิธีการให้ธาตุอาหาร การจัดการสภาพแวดล้อม และการออกแบบระบบปลูกที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มทั้งปริมาณผลผลิตและคุณภาพของสารสำคัญ นอกจากนี้ ยังได้นำความรู้จากผลงานอนุสิทธิบัตรมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบการผลิต โดยเฉพาะการให้แสงอย่างมีประสิทธิภาพตลอดวงจรการเติบโตของพืช การวิจัยนี้มุ่งเน้นการเพิ่มผลผลิต และยังให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพ โดยเฉพาะการป้องกันการปนเปื้อนของโลหะหนักและสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์และเวชสำอาง
ผลงานวิจัยนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการยกระดับการผลิตบัวบกให้มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานสากล การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการเกษตรจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และยังช่วยสร้างความมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในตลาดโลก
นวัตกรรมการปลูกบัวบกในระบบไฮโดรโพนิกส์ที่ได้รับการพัฒนาจากงานวิจัยนี้ จะช่วยให้เกษตรกรไทยสามารถผลิตวัตถุดิบคุณภาพสูงได้อย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมยา อาหารเสริม และเครื่องสำอาง นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เกษตรกรไทยสามารถยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิต ผ่านการผลิตพืชสมุนไพรมูลค่าสูง เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในตลาดสมุนไพรโลก และนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต